น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสังข์หยด

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสังข์หยด
น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสังข์หยด

วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

วิตามินต่างๆ ในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว สังข์หยด

              วิตามินต่างๆในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว สังข์หยด
วิตามิน A

ช่วยในการเจริญเติบโต รักษาและซ่อมแซมเนื้อเยื่อของผิวหนัง ป้องกันโรคตาฟางในเวลากลางคืน และพัฒนากระดูกและฟัน และอาจจจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคสะเก็ดเงิน

วิตามิน B-Complex

ในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวประกอบด้วยวิตามินบีหลายตัว เช่น B1(Thiamine) , B2(Riboflavin) , B3(Niacin) , B5(Pantothenic Acid) , B6(Pyridokine) และ B9(Folic acid) วิตามินบีที่มีประโยชน์เหล่านี้มีหน้าที่สำคัญเช่น
  • วิตามินบี1 ช่วยบำรุงหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งช่วยให้โลหิตไหลเวียนได้ดีขึ้น จึงส่งผลให้ผิวมีสุขภาพดีและเปล่งปลั่ง บำรุงประสาท ป้องกันโรคเหน็บชา
  • วิตามินบี2 ป้องกันโรคปากนกกระจอก รักษาความแข็งแรงของผิวหนัง เล็บและเส้นผม
  • วิตามินบี3 ป้องกันผิวหนังแห้งตกสะเก็ด ทำให้ผิวชุ่มชื้น ป้องกันความรู้สึกซึมเศร้า ในข้าวสังข์หยดมีไนอาซินสูง ซึ่งมีความสำคัญต่อระบบผิวหนังและประสาท ถ้าขาดวิตามินนี้ จะทำใหเกิดโรค Pellagra ทำให้มีอาการผิดปกติทางระบบประสาท ความจำเสื่อม ทำให้ผิวหนังที่ถูกแดดอักเสบเป็นผื่นแดงและลอก
  • วิตามินบี5 ลดอาการเหนื่อยล้า ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ช่วยบรรเทาอาการข้ออักเสบ
  • วิตามินบี6 ช่วยเผาผลาญโปรตีนในร่างกาย บำรุงประสาท รักษาอาการอ่อนเพลีย
  • วิตามินบี9 เป็นส่วนสำคัญในการสร้างDNA & RNA ที่สำคัญต่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และการเจริญเติบโตของระบบสืบพันธ์ ช่วยทำให้เซลล์มีความแข็งแรงและสร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่ รวมถึงทำให้ผมหงอกช้าลง
                       หน้าที่สำคัญของวิตามินบี-คอมเพล็กซ์ ที่มีต่อร่างกายคนเราคือ
  1. ช่วยให้กลไกในร่างกายย่อยคาร์โบไฮเดรตได้ดีขึ้น เมื่อร่างกายต้องการเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตให้เป็นพลังงาน ร่างกายต้องการวิตามินบีหลายตัว ดังนั้นการกินข้าวกล้อง รำข้าว จมูกข้าว จะทำให้มีการเผาผลาญพลังงานได้หมดกว่า ไม่เปลี่ยนเป็นน้ำตาลสะสมเป็นไขมันใต้ผิวหนัง
  2. ช่วยสร้างสารต้านอนุมูลอิสระและเม็ดเลือดแดง ช่วยรักษาระดับการหายใจของเซลล์
  3. ช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนและลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือด ลดความดันเลือด ช่วยในการดูดซึมโปรตีน ไขมัน และน้ำตาล
  4. ช่วยพัฒนาระบบการทำงานของสมอง ระบบประสาทและช่วยผ่อนคลายความเครียด
  5. ช่วยในการทำงานของระบบกล้ามเนื้อ และเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหัวใจ
  6. รักษาสมดุลของโซเดียมและฟอสฟอรัสในร่างกายรวมทั้งมีส่วนในการสร้างกรดอะมิโนแอซิด
  7. ช่วยรักษาโรคเหน็บชา
                                                                 วิตามินซี

ช่วยในการสมานแผล ทำให้แผลหายเร็ว รักษาฟัน กระดูก ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก เพิ่มความแข็งแรงให้แก่เส้นเลือดและป้องกันการเกิดมะเร็งจากไนเตรต ลดอาการติดเชื้อ ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยลดริ้วรอยและอาการผิวแก่กว่าวัย
                                                                  วิตามินดี

ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสและช่วยการทำงานของหัวใจและระบบประสาทส่วนกลาง รักษาโรคสะเก็ดเงิน

                                            วิตามินอี

กลุ่มวิตามินอีจากน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวคือ โทโคฟีรอล โทโคไตรอีนอล และแกมมา-โอรีซานอล ซึ่งล้วนเป็นวิตามินอีจากธรรมชาติ จะมีสารต้านอนุมูลอิสระดีกว่าสารสังเคราะห์ทั่วไปและสามารถอยู่ในร่างกายได้ดีกว่า ช่วยบำรุงและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง ป้องกันผิวหนังแห้งและแตก สารต้านอนุมูลอิสระนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้อนุมูลอิสระไปจับตามเซลล์ต่างๆได้โดยรูปแบบการทำงานเป็นเกราะกำบังให้กับทุกเซลล์

ซึ่งผลการวิจัยเชื่อว่า อนุมูลอิสระจะทำลายเซลล์ของร่างกายรวมทั้งเซลล์ผิวหนังทำให้ความแข็งแรงของผนังเซลล์ลดลง นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการเสื่อมสลายของเส้นใยคอลลาเจนและกรดไฮยาลูนิก ความสามารถในการรักษาความชื้น ความยืดหยุ่นลดลง เป็นสาเหตุการเกิดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า หรือภาวะแก่ก่อนวัยของร่างกาย

วิตามินอีกับโรคหลอดเลือด

วิตามินอีมีคุณประโยชน์ทางด้านโภชนาการมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคหลอดเลือด เช่น โทโคไตรอีนอล สามารถลดปริมาณโคเลสเตอรอลในเลือด และลดการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยยับยั้งการเกิดออกซิเดชั่นของ LDL-C (Low Density Lipoprotein Cholesterol) ซึ่งเป็นโคเลสเตอรอลที่ไม่ดี เพราะมีส่วนทำให้เกิดการอุดตันในผนังหลอดเลือดแดง และลดการทำงานของเอนไซม์ HMG CoA ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่สำคัญในกระบวนการสร้างโคเลสเตอรอลในร่างกาย

ส่วนโทโคฟีรอล นอกจากจะลดโคเลสเตอรอลแล้ว ยังใช้บำบัดโรคมะเร็งและโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer)

โดยทั่วไปวิตามินอีในน้ำมันรำข้าวมีกลุ่มโทโคฟีรอลประมาณ 19-49 % และกลุ่มโทโคไตรอีนอล 51-81 % ของวิตามินอีทั้งหมด (ปริมาณของวิตามินอีขึ้นอยู่กับชนิดของพันธุ์ข้าวและสภาพภูมิอากาศ) น้ำมันรำข้าวจึงจัดเป็นน้ำมันที่มีโทโคไตรอีนอลสูง มีคุณสมบัติในการป้องกันการเกิดออกซิเดชั่นของLDL-C และกรดไขมันไม่อิ่มตัวในร่างกายเรา

ซึ่งการเกิดออกซิเดชั่นเกิดจากอนุมูลอิสระ (Free Radicals) เข้าไปทำปฎิกิริยากับโมเลกุลอื่นๆโดยก่อให้เกิดการสูญเสียโครงสร้างของโมเลกุลนั้น และถ้าหากอนุมูลอิสระมากเกินไป จะทำให้เกิดสภาวะที่ผิดปรกติมากมาย โดยขึ้นอยู่กับเนื้อเยื่อที่ถูกโจมตีเหล่านั้น เช่น ถ้าอนุมูลอิสระโจมตีที่DNA ของเซลล์ชนิดใด จะก่อให้เกิดโรคมะเร็งในอัวยวะนั้นๆ และอีกหลายโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น เบาหวาน หรือโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด

ซึ่งวิตามินอีจะช่วยป้องกันการเกิดออกซิเดชั่น โดยการเข้าไปจับกับอนุมูลอิสระแล้วเปลี่ยนเป็นสารที่ไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์และขับออกจากร่างกายในที่สุด ดังนั้นน้ำมันรำข้าวจึงมีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งได้เป็นอย่างดีและยังสามารถช่วยผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคหัวใจแลหลอดเลือดอีกด้วย

แกมมา-โอริซานอล

แกมมา-โอริซานอล เป็นสารสำคัญที่พบในน้ำมันรำข้าวเท่านั้น มีคุณสมบัติเป็นสารต้านออกซิเดนท์ (anti-oxidant) มีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามินอีโดยทั่วไปถึง 6 เท่า มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดโคเลสเตอรอลที่เลว เพิ่มปริมาณโคเลสเตอรอลตัวที่ดี และช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์อันเป็นสาเหตุของมะเร็งและชะลอความชรา ลดไตรกลีเซอไรด์ ทำให้ลดการตีบตันของหลอดเลือด เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต มีฤทธิ์ในการลดความเครียด ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจ รักษาอาการผิดปกติของสตรีวัยทอง ป้องกันแสงยูวีได้ เมื่อใช้กินหรือใช้ทา ทำให้ผิวหนังชุ่มชื้นและต้านการอักเสบ สารชนิดนี้มีความปลอดภัยสูงมาก

ปัจจุบันมีการนำเอาสารโอรีซานอล ไปใช้ประโยชน์เป็นยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอางค์ประเภทanti-aging cosmetics ซึ่งมีสารชะลอรอยเหี่ยวย่น(anti-wrinkle) สารทำให้ผิวขาว (whitener) สารที่ให้ความชุ่มชื้น (moisturizer) สารต้านอนุมูลอิสระ และสารที่ช่วยป้องกันแสงแดด เพราะในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสังข์หยดมี ค่าSPF อยู่ประมาณ 50



สารอาหารเพิ่มความสวย/หล่อ

อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิตให้เคล็ดลับเรื่องการกินอาหารเพื่อความสวย/หล่อ ในคอลัมน์ "ปั้นชีวิตใหม่ด้วยชีวจิต" หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ประจำวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2553 ดังนี้

"...ถ้าคุณแข็งแรงอยู่แล้ว เลือดของคุณก็ต้องดีด้วย คนที่เลือดดี ผิวพรรณก็ค่อนข้างดีอยู่แล้วใช่ไหม ผมก็จะขอแนะนำว่า ขอให้คุณใช้วิตามินและอาหารเสริมเป็นตัวช่วย คือขอให้ใช้วิตามินเอ 1 เม็ด ร่วมกับไบโอติน (แยกจากบีคอมเพล็กซ์) 1 เม็ด และ PABA (จากบีคอมเพล็กซ์) อีก 1 เม็ด แล้วก็ลองแถมไอโนซิทอลและคอริน (จากบีคอมเพล็กซ์) อีก 1 เม็ดก็จะดี

"ทำไมจึงแนะนำอย่างนี้ ก็เพราะวิตามินเอเป็นตัวช่วยตับให้ทำงานดีขึ้น และตับก็จะช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้น สิวที่ขึ้นเต็มหน้าก็จะหายไป กลุ่มสารต่างๆจากบีคอมเพล็กซ์จะช่วยให้เส้นผมดกดำ แถมยังช่วยให้การทำงานของตับดีขึ้น ผิวพรรณของคุณจะเป็นสีชมพู และหน้าตาของคุณก็จะสวย/หล่อขึ้นเป็นเงาตามตัว....." 

 





ประโยชน์ของน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสังข์หยด ต่อระบบต่างๆของร่างกาย



               ประโยช์นของน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสังข์หยด ต่อระบบต่างๆของร่างกาย
  • ระบบประสาท
ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคอัลไซเมอร์ และช่วยให้ความจำดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบสื่อประสาท ทำให้ผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤกษ์ หรืออัมพาตแขนขาอ่อนแรง กลับมีการฟื้นตัวขยับแขนขาได้มากขึ้น หรือในบางคนที่มีความสามารถในการซ่อมแซมตัวเองมากพอก็จะสามารถกลับมาเดิน หรือทำกิจกรรมต่างๆได้เหมือนคนปกติอีกครั้งหนึ่ง

  • ระบบหลอดเลือดและการไหลเวียนของโลหิต
ช่วยลดปริมาณของโคเลสเตอรอล และลดปริมาณของไขมันชนิดที่ไม่ดี (LDL) ทำให้ระบบการไหลเวียนเลือดดีขึ้น ผนังหลอดเลือดมีความยืดหยุ่นตัวดีขึ้น จึงส่งผลให้ความดันโลหิตลดลงได้ ถ้ารับประทานอย่างสม่ำเสมอจะสามารถลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

  • ระบบภูมิคุ้มกันและการต่อต้านอนุมูลอิสระ
ทำให้ร่างกายเสื่อมสภาพช้าลง ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเสื่อมต่างๆเช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง นอกจากนี้จากผลของการเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายจึงช่วยลดการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งในคนไข้โรคมะเร็ง และช่วยให้ร่างกายมีการฟื้นตัวหลังการรักษาได้เร็วขึ้น

  • ระบบฮอร์โมนและการนอนหลับ
ช่วยให้สามารถนอนหลับได้สบาย และหลับสนิท ร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ มีการหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ทำให้ร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองได้เร็วขึ้น รวมทั้งยังช่วยให้มีการฟื้นตัวดีขึ้น เห็นได้จากตัวอย่างของผู้ป่วยบางคนที่ได้รับประทาน จะฟื้นตัวจากอาการเจ็บป่วยได้อย่างรวดเร็ว
ผลของการช่วยปรับสภาพสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย จึงทำให้ช่วยลดอาการแปรปรวนต่างๆในคนวัยทองหรือวัยหมดประจำเดือน  รวมไปถึงคนที่มีอาการปวดทอ้งขณะที่มีประจำเดือน ก็ยังช่วยลดอาการปวดท้องได้อย่างชัดเจน

  • ระบบกระดูกและข้อ
ช่วยลดอาการอักเสบของข้อ และช่วยเพิ่มการหล่อลื่นภายในข้อให้ดีขึ้น จึงทำให้การเคลื่อนไหวของข้อต่างๆดีขึ้น อีกทั้งยังสามารถช่วยลดการสูญเสียแคลเซียมออกไปจากร่างกาย จึงลดการเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุนได้อีกด้วย

  • ระบบผิวพรรณ
ทำให้ผิวพรรณมีความออ่นนุ่ม ชุ่มชื้น กระชับและยืดหยุ่นดี อีกทั้งยังช่วยลดปริมาณการสร้างเม็ดสีผิวอีกด้วย (Melanin) ลดริ้วรอย ความหมองคล้ำ จุดด่างดำบนใบหน้า
นอกจากนี้ยังมีผลการความแข็งแรงของผิว ลดการอักเสบของผิวได้ เพราะฉะนั้น คนที่มีปัญหาเรื่องสิวหรือผิวอักเสบ หากมีปัญหาเรื้อรัง เมื่อได้รับประทานต่อเนื่องก็มีโอกาสที่จะทำให้อาการต่างๆที่กล่าวดีขึ้นได้

สารอาหารเพิ่มความสวย/หล่อ

อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิตให้เคล็ดลับเรื่องการกินอาหารเพื่อความสวย/หล่อ ในคอลัมน์ "ปั้นชีวิตใหม่ด้วยชีวจิต" หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ประจำวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2553 ดังนี้

ถ้าคุณแข็งแรงอยู่แล้ว เลือดของคุณก็ต้องดีด้วย คนที่เลือดดี ผิวพรรณก็ค่อนข้างดีอยู่แล้วใช่ไหม ผมก็จะขอแนะนำว่า ขอให้คุณใช้วิตามินและอาหารเสริมเป็นตัวช่วย คือขอให้ใช้วิตามินเอ 1 เม็ด ร่วมกับไบโอติน (แยกจากบีคอมเพล็กซ์) 1 เม็ด และ PABA (จากบีคอมเพล็กซ์) อีก 1 เม็ด และก็ลองแถมไอโนซิทอลและคอริน (จากบีคอมเพล็กซ์)อีก 1 เม็ด ก็จะดี

ทำไมจึงแนะนำอย่างนี้ ก็เพราะวิตามินเอเป็นตัวช่วยตับให้ทำงานดีขึ้น และตับก็จะช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้น สิวที่ขึ้นเต็มหน้าก็จะหายไป กลุ่มสารต่างๆจากบีคอมเพล็กซ์จะช่วยให้เส้นผมดกดำ แถมยังช่วยให้การทำงานของตับดีขึ้น ผิวพรรณของคุณจะเป็นสีชมพู และหน้าตาของคุณก็จะสวย/หล่อขึ้นเป็นเงาตามตัว....