น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสังข์หยด

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสังข์หยด
น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสังข์หยด

วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

วิตามินต่างๆ ในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว สังข์หยด

              วิตามินต่างๆในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว สังข์หยด
วิตามิน A

ช่วยในการเจริญเติบโต รักษาและซ่อมแซมเนื้อเยื่อของผิวหนัง ป้องกันโรคตาฟางในเวลากลางคืน และพัฒนากระดูกและฟัน และอาจจจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคสะเก็ดเงิน

วิตามิน B-Complex

ในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวประกอบด้วยวิตามินบีหลายตัว เช่น B1(Thiamine) , B2(Riboflavin) , B3(Niacin) , B5(Pantothenic Acid) , B6(Pyridokine) และ B9(Folic acid) วิตามินบีที่มีประโยชน์เหล่านี้มีหน้าที่สำคัญเช่น
  • วิตามินบี1 ช่วยบำรุงหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งช่วยให้โลหิตไหลเวียนได้ดีขึ้น จึงส่งผลให้ผิวมีสุขภาพดีและเปล่งปลั่ง บำรุงประสาท ป้องกันโรคเหน็บชา
  • วิตามินบี2 ป้องกันโรคปากนกกระจอก รักษาความแข็งแรงของผิวหนัง เล็บและเส้นผม
  • วิตามินบี3 ป้องกันผิวหนังแห้งตกสะเก็ด ทำให้ผิวชุ่มชื้น ป้องกันความรู้สึกซึมเศร้า ในข้าวสังข์หยดมีไนอาซินสูง ซึ่งมีความสำคัญต่อระบบผิวหนังและประสาท ถ้าขาดวิตามินนี้ จะทำใหเกิดโรค Pellagra ทำให้มีอาการผิดปกติทางระบบประสาท ความจำเสื่อม ทำให้ผิวหนังที่ถูกแดดอักเสบเป็นผื่นแดงและลอก
  • วิตามินบี5 ลดอาการเหนื่อยล้า ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ช่วยบรรเทาอาการข้ออักเสบ
  • วิตามินบี6 ช่วยเผาผลาญโปรตีนในร่างกาย บำรุงประสาท รักษาอาการอ่อนเพลีย
  • วิตามินบี9 เป็นส่วนสำคัญในการสร้างDNA & RNA ที่สำคัญต่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และการเจริญเติบโตของระบบสืบพันธ์ ช่วยทำให้เซลล์มีความแข็งแรงและสร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่ รวมถึงทำให้ผมหงอกช้าลง
                       หน้าที่สำคัญของวิตามินบี-คอมเพล็กซ์ ที่มีต่อร่างกายคนเราคือ
  1. ช่วยให้กลไกในร่างกายย่อยคาร์โบไฮเดรตได้ดีขึ้น เมื่อร่างกายต้องการเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตให้เป็นพลังงาน ร่างกายต้องการวิตามินบีหลายตัว ดังนั้นการกินข้าวกล้อง รำข้าว จมูกข้าว จะทำให้มีการเผาผลาญพลังงานได้หมดกว่า ไม่เปลี่ยนเป็นน้ำตาลสะสมเป็นไขมันใต้ผิวหนัง
  2. ช่วยสร้างสารต้านอนุมูลอิสระและเม็ดเลือดแดง ช่วยรักษาระดับการหายใจของเซลล์
  3. ช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนและลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือด ลดความดันเลือด ช่วยในการดูดซึมโปรตีน ไขมัน และน้ำตาล
  4. ช่วยพัฒนาระบบการทำงานของสมอง ระบบประสาทและช่วยผ่อนคลายความเครียด
  5. ช่วยในการทำงานของระบบกล้ามเนื้อ และเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหัวใจ
  6. รักษาสมดุลของโซเดียมและฟอสฟอรัสในร่างกายรวมทั้งมีส่วนในการสร้างกรดอะมิโนแอซิด
  7. ช่วยรักษาโรคเหน็บชา
                                                                 วิตามินซี

ช่วยในการสมานแผล ทำให้แผลหายเร็ว รักษาฟัน กระดูก ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก เพิ่มความแข็งแรงให้แก่เส้นเลือดและป้องกันการเกิดมะเร็งจากไนเตรต ลดอาการติดเชื้อ ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยลดริ้วรอยและอาการผิวแก่กว่าวัย
                                                                  วิตามินดี

ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสและช่วยการทำงานของหัวใจและระบบประสาทส่วนกลาง รักษาโรคสะเก็ดเงิน

                                            วิตามินอี

กลุ่มวิตามินอีจากน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวคือ โทโคฟีรอล โทโคไตรอีนอล และแกมมา-โอรีซานอล ซึ่งล้วนเป็นวิตามินอีจากธรรมชาติ จะมีสารต้านอนุมูลอิสระดีกว่าสารสังเคราะห์ทั่วไปและสามารถอยู่ในร่างกายได้ดีกว่า ช่วยบำรุงและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง ป้องกันผิวหนังแห้งและแตก สารต้านอนุมูลอิสระนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้อนุมูลอิสระไปจับตามเซลล์ต่างๆได้โดยรูปแบบการทำงานเป็นเกราะกำบังให้กับทุกเซลล์

ซึ่งผลการวิจัยเชื่อว่า อนุมูลอิสระจะทำลายเซลล์ของร่างกายรวมทั้งเซลล์ผิวหนังทำให้ความแข็งแรงของผนังเซลล์ลดลง นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการเสื่อมสลายของเส้นใยคอลลาเจนและกรดไฮยาลูนิก ความสามารถในการรักษาความชื้น ความยืดหยุ่นลดลง เป็นสาเหตุการเกิดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า หรือภาวะแก่ก่อนวัยของร่างกาย

วิตามินอีกับโรคหลอดเลือด

วิตามินอีมีคุณประโยชน์ทางด้านโภชนาการมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคหลอดเลือด เช่น โทโคไตรอีนอล สามารถลดปริมาณโคเลสเตอรอลในเลือด และลดการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยยับยั้งการเกิดออกซิเดชั่นของ LDL-C (Low Density Lipoprotein Cholesterol) ซึ่งเป็นโคเลสเตอรอลที่ไม่ดี เพราะมีส่วนทำให้เกิดการอุดตันในผนังหลอดเลือดแดง และลดการทำงานของเอนไซม์ HMG CoA ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่สำคัญในกระบวนการสร้างโคเลสเตอรอลในร่างกาย

ส่วนโทโคฟีรอล นอกจากจะลดโคเลสเตอรอลแล้ว ยังใช้บำบัดโรคมะเร็งและโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer)

โดยทั่วไปวิตามินอีในน้ำมันรำข้าวมีกลุ่มโทโคฟีรอลประมาณ 19-49 % และกลุ่มโทโคไตรอีนอล 51-81 % ของวิตามินอีทั้งหมด (ปริมาณของวิตามินอีขึ้นอยู่กับชนิดของพันธุ์ข้าวและสภาพภูมิอากาศ) น้ำมันรำข้าวจึงจัดเป็นน้ำมันที่มีโทโคไตรอีนอลสูง มีคุณสมบัติในการป้องกันการเกิดออกซิเดชั่นของLDL-C และกรดไขมันไม่อิ่มตัวในร่างกายเรา

ซึ่งการเกิดออกซิเดชั่นเกิดจากอนุมูลอิสระ (Free Radicals) เข้าไปทำปฎิกิริยากับโมเลกุลอื่นๆโดยก่อให้เกิดการสูญเสียโครงสร้างของโมเลกุลนั้น และถ้าหากอนุมูลอิสระมากเกินไป จะทำให้เกิดสภาวะที่ผิดปรกติมากมาย โดยขึ้นอยู่กับเนื้อเยื่อที่ถูกโจมตีเหล่านั้น เช่น ถ้าอนุมูลอิสระโจมตีที่DNA ของเซลล์ชนิดใด จะก่อให้เกิดโรคมะเร็งในอัวยวะนั้นๆ และอีกหลายโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น เบาหวาน หรือโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด

ซึ่งวิตามินอีจะช่วยป้องกันการเกิดออกซิเดชั่น โดยการเข้าไปจับกับอนุมูลอิสระแล้วเปลี่ยนเป็นสารที่ไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์และขับออกจากร่างกายในที่สุด ดังนั้นน้ำมันรำข้าวจึงมีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งได้เป็นอย่างดีและยังสามารถช่วยผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคหัวใจแลหลอดเลือดอีกด้วย

แกมมา-โอริซานอล

แกมมา-โอริซานอล เป็นสารสำคัญที่พบในน้ำมันรำข้าวเท่านั้น มีคุณสมบัติเป็นสารต้านออกซิเดนท์ (anti-oxidant) มีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามินอีโดยทั่วไปถึง 6 เท่า มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดโคเลสเตอรอลที่เลว เพิ่มปริมาณโคเลสเตอรอลตัวที่ดี และช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์อันเป็นสาเหตุของมะเร็งและชะลอความชรา ลดไตรกลีเซอไรด์ ทำให้ลดการตีบตันของหลอดเลือด เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต มีฤทธิ์ในการลดความเครียด ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจ รักษาอาการผิดปกติของสตรีวัยทอง ป้องกันแสงยูวีได้ เมื่อใช้กินหรือใช้ทา ทำให้ผิวหนังชุ่มชื้นและต้านการอักเสบ สารชนิดนี้มีความปลอดภัยสูงมาก

ปัจจุบันมีการนำเอาสารโอรีซานอล ไปใช้ประโยชน์เป็นยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอางค์ประเภทanti-aging cosmetics ซึ่งมีสารชะลอรอยเหี่ยวย่น(anti-wrinkle) สารทำให้ผิวขาว (whitener) สารที่ให้ความชุ่มชื้น (moisturizer) สารต้านอนุมูลอิสระ และสารที่ช่วยป้องกันแสงแดด เพราะในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสังข์หยดมี ค่าSPF อยู่ประมาณ 50



สารอาหารเพิ่มความสวย/หล่อ

อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิตให้เคล็ดลับเรื่องการกินอาหารเพื่อความสวย/หล่อ ในคอลัมน์ "ปั้นชีวิตใหม่ด้วยชีวจิต" หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ประจำวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2553 ดังนี้

"...ถ้าคุณแข็งแรงอยู่แล้ว เลือดของคุณก็ต้องดีด้วย คนที่เลือดดี ผิวพรรณก็ค่อนข้างดีอยู่แล้วใช่ไหม ผมก็จะขอแนะนำว่า ขอให้คุณใช้วิตามินและอาหารเสริมเป็นตัวช่วย คือขอให้ใช้วิตามินเอ 1 เม็ด ร่วมกับไบโอติน (แยกจากบีคอมเพล็กซ์) 1 เม็ด และ PABA (จากบีคอมเพล็กซ์) อีก 1 เม็ด แล้วก็ลองแถมไอโนซิทอลและคอริน (จากบีคอมเพล็กซ์) อีก 1 เม็ดก็จะดี

"ทำไมจึงแนะนำอย่างนี้ ก็เพราะวิตามินเอเป็นตัวช่วยตับให้ทำงานดีขึ้น และตับก็จะช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้น สิวที่ขึ้นเต็มหน้าก็จะหายไป กลุ่มสารต่างๆจากบีคอมเพล็กซ์จะช่วยให้เส้นผมดกดำ แถมยังช่วยให้การทำงานของตับดีขึ้น ผิวพรรณของคุณจะเป็นสีชมพู และหน้าตาของคุณก็จะสวย/หล่อขึ้นเป็นเงาตามตัว....." 

 





ประโยชน์ของน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสังข์หยด ต่อระบบต่างๆของร่างกาย



               ประโยช์นของน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสังข์หยด ต่อระบบต่างๆของร่างกาย
  • ระบบประสาท
ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคอัลไซเมอร์ และช่วยให้ความจำดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบสื่อประสาท ทำให้ผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤกษ์ หรืออัมพาตแขนขาอ่อนแรง กลับมีการฟื้นตัวขยับแขนขาได้มากขึ้น หรือในบางคนที่มีความสามารถในการซ่อมแซมตัวเองมากพอก็จะสามารถกลับมาเดิน หรือทำกิจกรรมต่างๆได้เหมือนคนปกติอีกครั้งหนึ่ง

  • ระบบหลอดเลือดและการไหลเวียนของโลหิต
ช่วยลดปริมาณของโคเลสเตอรอล และลดปริมาณของไขมันชนิดที่ไม่ดี (LDL) ทำให้ระบบการไหลเวียนเลือดดีขึ้น ผนังหลอดเลือดมีความยืดหยุ่นตัวดีขึ้น จึงส่งผลให้ความดันโลหิตลดลงได้ ถ้ารับประทานอย่างสม่ำเสมอจะสามารถลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

  • ระบบภูมิคุ้มกันและการต่อต้านอนุมูลอิสระ
ทำให้ร่างกายเสื่อมสภาพช้าลง ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเสื่อมต่างๆเช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง นอกจากนี้จากผลของการเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายจึงช่วยลดการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งในคนไข้โรคมะเร็ง และช่วยให้ร่างกายมีการฟื้นตัวหลังการรักษาได้เร็วขึ้น

  • ระบบฮอร์โมนและการนอนหลับ
ช่วยให้สามารถนอนหลับได้สบาย และหลับสนิท ร่างกายได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ มีการหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ทำให้ร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองได้เร็วขึ้น รวมทั้งยังช่วยให้มีการฟื้นตัวดีขึ้น เห็นได้จากตัวอย่างของผู้ป่วยบางคนที่ได้รับประทาน จะฟื้นตัวจากอาการเจ็บป่วยได้อย่างรวดเร็ว
ผลของการช่วยปรับสภาพสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย จึงทำให้ช่วยลดอาการแปรปรวนต่างๆในคนวัยทองหรือวัยหมดประจำเดือน  รวมไปถึงคนที่มีอาการปวดทอ้งขณะที่มีประจำเดือน ก็ยังช่วยลดอาการปวดท้องได้อย่างชัดเจน

  • ระบบกระดูกและข้อ
ช่วยลดอาการอักเสบของข้อ และช่วยเพิ่มการหล่อลื่นภายในข้อให้ดีขึ้น จึงทำให้การเคลื่อนไหวของข้อต่างๆดีขึ้น อีกทั้งยังสามารถช่วยลดการสูญเสียแคลเซียมออกไปจากร่างกาย จึงลดการเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุนได้อีกด้วย

  • ระบบผิวพรรณ
ทำให้ผิวพรรณมีความออ่นนุ่ม ชุ่มชื้น กระชับและยืดหยุ่นดี อีกทั้งยังช่วยลดปริมาณการสร้างเม็ดสีผิวอีกด้วย (Melanin) ลดริ้วรอย ความหมองคล้ำ จุดด่างดำบนใบหน้า
นอกจากนี้ยังมีผลการความแข็งแรงของผิว ลดการอักเสบของผิวได้ เพราะฉะนั้น คนที่มีปัญหาเรื่องสิวหรือผิวอักเสบ หากมีปัญหาเรื้อรัง เมื่อได้รับประทานต่อเนื่องก็มีโอกาสที่จะทำให้อาการต่างๆที่กล่าวดีขึ้นได้

สารอาหารเพิ่มความสวย/หล่อ

อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิตให้เคล็ดลับเรื่องการกินอาหารเพื่อความสวย/หล่อ ในคอลัมน์ "ปั้นชีวิตใหม่ด้วยชีวจิต" หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ประจำวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2553 ดังนี้

ถ้าคุณแข็งแรงอยู่แล้ว เลือดของคุณก็ต้องดีด้วย คนที่เลือดดี ผิวพรรณก็ค่อนข้างดีอยู่แล้วใช่ไหม ผมก็จะขอแนะนำว่า ขอให้คุณใช้วิตามินและอาหารเสริมเป็นตัวช่วย คือขอให้ใช้วิตามินเอ 1 เม็ด ร่วมกับไบโอติน (แยกจากบีคอมเพล็กซ์) 1 เม็ด และ PABA (จากบีคอมเพล็กซ์) อีก 1 เม็ด และก็ลองแถมไอโนซิทอลและคอริน (จากบีคอมเพล็กซ์)อีก 1 เม็ด ก็จะดี

ทำไมจึงแนะนำอย่างนี้ ก็เพราะวิตามินเอเป็นตัวช่วยตับให้ทำงานดีขึ้น และตับก็จะช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้น สิวที่ขึ้นเต็มหน้าก็จะหายไป กลุ่มสารต่างๆจากบีคอมเพล็กซ์จะช่วยให้เส้นผมดกดำ แถมยังช่วยให้การทำงานของตับดีขึ้น ผิวพรรณของคุณจะเป็นสีชมพู และหน้าตาของคุณก็จะสวย/หล่อขึ้นเป็นเงาตามตัว....


วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2554

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสังข์หยด กับ Cholesterol & Oxidation

 น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสังข์หยดเหมาะกับคุณหรือไม่ ?

  • ใช่ ถ้าคุณต้องการสารต้านอนุมูลอิสระ
  • ใช่ ถ้าคุณมีปัญหาเกี่ยวกับผิวพรรณ
  • ใช่ ถ้าคุณต้องการป้องกันโรคเกี่ยวกับสมอง
  • ใช่ ถ้าคุณต้องการป้องกันปัญหาหัวใจและหลอดเลือด
  • ใช่ ถ้าคุณต้องการป้องกันไขมันในเลือดสูง (คอเลสเตอรอล)
  • ใช่ ถ้าคุณมีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิต้านทานโรค
  • ใช่ ถ้าคุณมีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็ง
  • ใช่ ถ้าคุณมีปัญหาเกี่ยวกับอาการก่อนมีประจำเดือน
  • ใช่ ถ้าคุณมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนไม่หลับ

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสังข์หยด 100%
ไม่เติมสี กลิ่นหรือวัตถุกันเสีย สกัดเย็นปราศจากสารเคมี
สารอาหารมากมายได้จากรำข้าวและจมูกข้าวสังข์หยด


                                                           
                                                       คอเลสเตอรอล

 
                                ไขมันในเลือดที่เรารู้จักกันได้แก่ คอเลสเตอรอล แบ่งเป็น

 
  1. คอเลสเตอรอลชนิดร้าย(LDL) ถ้ามีปริมาณมากเกินไปจะเกาะอยู่ตามผนังเส้นเลือดแดงและพอกตัวจนก่อให้เกิดคราบไขมันและหินปูน อันเป็นต้นเหตุของอาการหลอดเลือดตีบตันก่อให้เกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมองตีบ อัมพฤกษ์ อัมพาต หากคราบหินปูนแตกออกหลุดเข้าไปในกระแสเลือดอย่างเฉียบพลัน อาจส่งผลร้ายแรงจนเกิดอาการหัวใจวายถึงขั้นเสียชีวิตได้

 
   2. คอเลสเตอรอลชนิดดี(HDL) เป็นคอเลสเตอรอลที่จำเป็นต่อร่างกายโดยนำคอเลสเตอรอลส่วนที่เหลือใช้จากเซลล์กลับไปยังตับ เสมือนเรือขุดที่จะไปขุดลอกเอาไขมันที่พอกตัวอุดตันหลอดเลือดกลับไปทำลายเผาผลาญที่ตับ คอเลสเตอรอลชนิดนี้ยิ่งมีมากยิ่งดี ช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

 
   3. ไตรกลีเซอไรด์ ถ้ามีสูง จะเพิ่มอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ


ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง เป็นข้าวที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
รับประทานแล้วดีต่อสุขภาพ ป้องกันและรักษาโรคได้
เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพทุกคน ทุกวัย
                                                                ออกซิเดชั่น

 
เกิดจากอนุมูลอิสระ เข้าไปทำปฎิกิริยากับโมเลกุลอื่นๆในร่างกาย ก่อให้เกิดการสูญเสียโครงสร้างของโมเลกุลนั้นหากอนุมุลอิสระมีมากเกินไปจะทำให้เกิดสภาวะผิดปกติมากมายขึ้นอยู่กับเนื้อเยื่อที่ถูกโจมตีเหล่านั้น เช่น ถ้าอนุมูลอิสระโจมตีที่เซลล์ชนิดใดจะก่อให้เกิดมะเร็งของอวัยวะนั้นๆ และโรคเรื้อรังต่างๆอีกมากมาย เช่น เบาหวานหรือโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด

 
เมื่ออนุมูลอิสระทำลายเซลล์ผิวหนัง จะส่งผลให้เส้นใยคอลลาเจนและกรดไฮยาลูนิกในร่างกายลดลง อันเป็นสาเหตุสำคัญให้ผิวหนังขาดความชุ่มชื้นเกิดรอยเหี่ยวย่นและภาวะแก่ก่อนวัย

 
สารต้านอนุมูลอิสระในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสังข์หยดจะเข้าไปจับกับอนุมูลอิสระแล้วเปลี่ยนเป็นสารที่ไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์และขับออกจากร่างกายในที่สุด บทบาทของสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีร้อยกว่าชนิดในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสังข์หยดนั้นจะช่วยป้องกันการเกิดออกซิเดชั่น

 

วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2554

MUFA : Monounsaturated Fatty Acid

                                                                                

                               MUFA : กรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโคเลสเตอรอล

โคเลสเตอรอล คือ ไขมันที่ร่างกายสร้างขึ้นและได้รับจากสารอาหารที่มาจากสัตว์ ทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของเซลล์ในระบบสมอง เป็นส่วนประกอบของฮอร์โมนหลายชนิดและช่วยในการย่อยและดูดซึมไขมันในลำไส้ ถ้ามีมากเกินไปโคเลสเตอรอลจะเกาะที่ผนังเส้นเลือด ทำให้เกิดปัญหาการไหลเวียนของโลหิตและเกิดภาวะไขมันในเลือดสูง

โคเลสเตอรอลมีทั้งชนิดที่ดี คือ HDL-C (High Density Lipoprotein Cholesterol) และชนิดที่ไม่ดี คือ LDL-C (Low Density Lipoprotein Cholesterol) ในร่างกายควรมี HDL-C สูงพอสมควรและอยู่ในระดับที่เหมาะสม เพราะ HDL-C จะช่วยลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดภาวะหลอดเลือดแข็งได้

ในน้ำมันพืชทุกชนิดที่ใช้ประกอบอาหารไม่มีโคเลสเตอรอล แต่มีสัดส่วนของกรดไขมันแตกต่างกัน ซึ่งกรดไขมันสามารถแบ่งตามความอิ่มตัวได้ 3 ประเภท คือ
  1. กรดไขมันอิ่มตัว (Saturated Fatty Acid : SFA) มีอยู่ในน้ำมันที่ผลิตได้จากไขมันสัตว์และพืชบางชนิด เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม
  2. กรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว (Monounsaturated Fatty Acid : MUFA) พบมากใน น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว
  3. กรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง (Polyunsaturated Fatty Acid : PUFA) พบมากในน้ำมันเมล็ดทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด น้ำมันถั่วเหลือง
***น้ำมันรำข้าวกับน้ำมันมะกอกต่างกันอย่างไร***

น้ำมันรำข้าวกับน้ำมันมะกอก จัดอยู่ในกลุ่มน้ำมันพืชที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียวหรือ MUFA สูงเหมือนกัน โดยน้ำมันมะกอกมีปริมาณของMUFAสูงกว่าน้ำมันรำข้าว แต่เมื่อพิจารณาจากคำแนะนำสัดส่วนกรดไขมันที่เหมาะสม กับการบริโภคขององค์การอนามัยโลก (WHO) และโครงการศึกษาโคเลสเตอรอลแห่งชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา (NCEP) พบว่า น้ำมันรำข้าวมีสัดส่วนของกรดไขมันทั้ง 3 ชนิดใกล้เคียงมากที่สุดกับคำแนะนำของWHOและNCEP และในน้ำมันรำข้าวยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่หลายชนิดและมีปริมาณมากกว่าน้ำมันมะกอก

กรดไขมัน สำคัญอย่างไร

กรดไขมันจะทำให้คุณสมบัติของน้ำมันต่างกัน และส่งผลต่อสุขภาพแตกต่างกันไป การวิจัยของแพทย์และผู้เชี่ยวชาญพบว่า กรดไขมันอิ่มตัว (SFA) จะเพิ่มระดับโคเลสเตอรอลในเลือด ส่วนกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง (PUFA) จะลดระดับโคเลสเตอรอลทุกชนิดในเลือด คือทั้งชนิดที่ดี (HDL-C) และโคเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL-C) ส่วนกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว (MUFA) จะลดเฉพาะโคเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL-C) เท่านั้น

MUFA ช่วยลดอัตราเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด

นอกจาก MUFA จะสามารถลดโคเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL-C) ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดการอุดตันในผนังหลอดเลือดแดงแล้ว MUFA ยังสามารถเพิ่มหรือคงระดับโคเลสเตอรอลที่ดี (HDL-C) ที่เป็นตัวนำโคเลสเตอรอลในเซลล์และกระแสเลือดไปเผาผลาญ นอกจากนี้ MUFA ยังช่วยลดอัตราการเกิดออกซิเดชั่นของ LDL-C อีกด้วย

ดังนั้น MUFA จึงมีส่วนช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ และยังช่วยทำให้ผนังหลอดเลือดแดงทำงานได้ดีขึ้น ในขณะที่กรดไขมันอิ่มตัว (SFA) ที่พบมากในไขมันสัตว์ ทำให้ระดับโคเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น

ส่วน PUFA ที่มีอยู่มากในน้ำมันเมล็ดทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด และน้ำมันถั่วเหลืองนั้น นอกจากจะลดโคเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL-C) แล้ว ยังลดโคเลสเตอรอลที่ดี (HDL-C) ด้วย

สัดส่วนของกรดไขมันที่เหมาะสมต่อร่างกายคุณ

เพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด หรือโรคมะเร็ง องค์การอนามัยโลก (WHO) องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และสมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกา (The American Heart Association) ได้แนะนำสัดส่วนของกรดไขมันที่ควรบริโภคประจำวัน คือ
SFA : MUFA : PUFA = 10 : 10-15 : < 10 = 1 : 1.5 : 1 ของพลังงานที่ได้รับต่อวัน



เอกสารอ้างอิง
  1. รุจิรา สัมมะสุต, เอกสารเรามารู้จักโคเลสเตอรอล
  2. Gill , J.M.R. , Brown, J.C., Caslake, M.J..2003 "Effects of dietary monounsaturated fatty acids on lipoprotein concentrations, compositions, and subtraction distributions and on VLDL apolipoprotein B kinetics : dose-dependent effects on LDL ", The American Journal of Clinical Nutrition, Vol.78 pp.47-56
  3. Ashton, E.L., Best, J.D., Ball M.J., 2001 "Effects of Monounsaturated Enriched Sunflower Oil on CHD Risk Factors including LDL Size and Copper-Induced LDL oxidation ", Journal of the American College of Nutrition, Vol. 20, No.4 pp.320-326.
  4. นัยนา บุญทวียุวัฒน์ และ เรวดี จงสุวัฒน์, 2545 , น้ำมันรำข้าวทางเลือกเพื่อสุขภาพของคนไทย, พิมพ์ครั้งที่ 1, น.21, 14-15, 23 โอเดียนสโตร์, กรุงเทพๆ.




วันเสาร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2554

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว สังข์หยด : Sangyod rice bran & germ oil

                                             น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสังข์หยด
                                                       (Sangyod rice bran & germ oil)

กลุ่มโอรีซานอล (Oryzanol)
  • พบในน้ำมันรำข้าวเท่านั้น
  • ต้านอนุมูลอิสระได้สูงกว่าวิตามินอีถึง 6 เท่า(ผลการวิจัยของสถาบันบรานสวิคส์ Brunswick Laboratories แห่งสหรัฐอเมริกา)
  • ลดระดับคอเลสเตอรอลตัวร้าย (LDL)
  • ลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides)
  • เพิ่มปริมาณคอเลสเตอรอลตัวดี (HDL)
  • ปรับสมดุลของระดับฮอร์โมนของสตรีวัยทอง ลดอาการร้อนวูบวาบ (Hot Flashes)
  • ป้องกันแสงยูวี ทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น ผิวขาวขึ้นและต้านการอักเสบของผิวหนัง
กลุ่มวิตามินอี คอมเพล็กซ์ (โทโคฟีรอล-Tocopherol และ โทโคไตรอีนอล-Tocotrienol)
  • ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและลดการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
  • ต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าวิตามินอีสังเคราะห์ สามารถอยู่ในร่างกายได้ดีกว่า ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เพราะสารที่ได้จากธรรมชาติมีความปลอดภัยสูง
  • ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ ช่วยให้ผิวหนังแข็งแรง ชุ่มชื้น ลดริ้วรอย
  • ต้านเชื้อโรค ช่วยให้ภูมิคุ้มกันดีขึ้น
  • เร่งอัตราการสมานแผลในร่างกาย
  • รักษาสมดุลของระบบประสาท
กลุ่มไฟโตสเตอรอล (Phytosterol)
  • ลดการดูดซึมของคอเลสเตอรอลตัวร้าย (LDL)
  • ยับยั้งการเติบโตของเซลล์เนื้องอกและเซลล์มะเร็งเต้านม
  • ช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งต่อมลูกหมาก
กลุ่มไขมันจำเป็น (Oleic Acid & Linoleic Acid)
  • กรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายสร้างเองไม่ได้ จำเป็นต้องได้รับจากภายนอก
  • แหล่งให้พลังงานหลักของเซลล์สมองและระบบประสาท ช่วยให้ส่วนที่ชำรุดฟื้นตัวดีขึ้น
  • ลดอาการแทรกซ้อนทางประสาท เช่นอาการชาปลายมือ ปลายเท้า
  • ลดอาการปวดอักเสบ เช่น โรคข้อรูมาตอยด์
  • ช่วยปกป้องเซลล์ประสาทจากสารพิษและอนุมูลอิสระต่างๆ
กลุ่มสควอลีน (Squalene)
  • สารกลุ่มเซราไมด์ เป็นส่วนประกอบสำคัญของชั้นผิวหนังทำให้ผิวยืดหยุ่น เรียบเนียน ลดริ้วรอย
  • ช่วยปรับสภาพผิวให้กระจ่างใส ยับยั้งการสังเคราะห์เมลานิน (Melanin) เพราะเอนไซม์ที่ได้จากข้าวและรำข้าวสามารถยับยั้งการสร้างเมลานิน และการเกิดเม็ดสีจากรังสีUV ที่เป็นสาเหตุของฝ้า กระ และจุดด่างดำ
  • ช่วยยับยั้งการเกิดLipid peroxidation และทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจน (โปรตีนที่ทำให้หน้ายืดหยุ่นหรือหน้าเด้ง)
Lipid peroxidation คือปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเมื่อ อนุมูลอิสระทำปฏิกิริยากับกรดไขมันไม่อิ่มตัวในผนังเซลล์ เกิดขึ้นในผนังเซลล์ เกิดเป็น lipid peroxide ซึ่งจะเคลื่อนย้ายตัวเองออกจากชั้นในของเยื่อหุ้มเซลล์ขึ้นมาอยู่บนผิวของเยื่อหุ้มเซลล์และเกิดการทำลายเยื่อหุ้มเซลล์

กลุ่มวิตามินบี (VitaminB-Complex)
  • ช่วยให้การสลายตัวของแป้งและกลูโคสได้ง่ายขึ้นในขบวนการไกลโคซีส
  • ลดอาการเหน็บชา
สารเมลาโทนิน (Melatonin)
  • ช่วยให้การทำงานของระบบประสาทดีขึ้น
  • ช่วยลดความเครียด
  • ช่วยให้นอนหลับสบาย หลับลึก
  • ช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงสมอง ผมและเล็บ
ฟอสโฟไลปิด (Phospholipid)
  • มีโครงสร้างคล้ายส่วนที่เป็นองค์ประกอบของผนังเซลล์ประสาทจึงรักษาสมดุลของระบบประสาท เสริมสร้างความจำและลดความเครียด







ขอขอบคุณข้อมูลจาก คมสัน หุตะแพทย์ , 2550 , น้ำมันรำข้าว คุณค่าดั่งทอง , เกษตรธรรมชาติ

วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

แกมมา-โอรีซานอล (Gamma-Oryzanol)

                                                   Gamma-Oryzanol

แกมมา-โอรีซานอลค้นพบครั้งแรกในน้ำมันรำข้าวในปี ค.ศ. 1954 โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นชื่อ Tsuchiya,T. และ Kaneko,R.(Orthoefer,1996) มีลักษณะเป็นผงสีขาวหรือสีขาวปนเหลืองอ่อนๆละลายได้ดีในคลอโรฟอร์ม รองลงมาเป็นอีเทอร์ ละลายได้เล็กน้อยในเฮปเทน และไม่ละลายในน้ำ มีจุดหลอมเหลงสูงประมาณ 161.2 องศาเซลเซียส

แกมมา-โอรีซานอลเป็นกลุ่มของสารประกอบเอสเทอร์ระหว่างกรดเฟอรูลิก(ferulic acid)และสเตอรอล(sterols) หรือไตรเทอร์ปีนแอลกอฮอล์(triterpene alcohols) ชนิดต่างๆ โดยแกมมา-โอรีซานอลเป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติเช่นเดียวกับโทโคฟีรอลและโทโคไตรอีนอล จึงทำให้น้ำมันรำข้าวคงสภาพได้นานที่อุณหภูมิสูง คุณสมบัติทางกายภาพเช่น สี รส รวมทั้งคุณสมบัติทางเคมีก็ไม่เปลี่ยนแปลง

ผลการวิจัยยืนยันคุณค่า แกมมา-โอรีซานอล

นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยมากมายกว่า 50 ปี ยืนยันประสิทธิภาพของแกมมา-โอริซานอล พบว่า แกมมา-โอรีซานอลสามารถลดระดับโคเลสเตอรอล โดยแกมมา-โอรีซานอลจะไปจับกับโคเลสเตอรอลในน้ำดี แล้วเพิ่มการขับน้ำดีเข้าไปในลำไส้และป้องกันไม่ให้มีการดูดซึมกลับเข้ามาใหม่ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ลดการรวมตัวของเกล็ดเลือด(platelet aggregation) และช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์สาเหตุของมะเร็ง ปริมาณแกมมา-โอรีซานอลที่พบในน้ำมันรำข้าวมีมากกว่าวิตามินอีประมาณ 20 เท่า

ทั้งนี้ทั้งนั้น ปริมาณของแกมมา-โอริซานอลยังขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของข้าว โดยพบว่าข้าวสายพันธุ์ต่างๆมีปริมาณแกมมา-โอรีซานอลที่แตกต่างกัน

นอกจากนี้ยังพบว่าแกมมา-โอรีซานอลมีฤทธิ์ทางชีวภาพอื่นๆที่มีผลต่อสุขภาพอีกหลายประการ เช่น การลดปริมาณโคเลสเตอรอลในเลือด กระตุ้นการเจริญเติบโตของร่างกาย และลดการดูดซึมโคเลสเตอรอล ทำให้ผู้บริโภคปัจจุบันให้ความสนใจกับการนำน้ำมันรำข้าวมาบริโภคกันมากขึ้น



                                         น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสังข์หยด 100%  มีสารแกมมา-โอริซานอลสูงตามธรรมชาติ โดยไม่มีการกระตุ้นหรือแต่งเติมใดๆ  เพราะสีแดงของข้าวสังข์หยด เป็นรงควัตถุประเภทฟลาวานอยด์ชนิดแอนไซยานิน ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ซึ่งช่วยชะลอความชราและลดความเสี่ยงในการเป็นโรคต่างๆเช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ เป็นต้น 

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสังข์หยดช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมส่วนสึกหรอของเซลล์ประสาทสมอง ช่วยป้องกันและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ประสาท ลดความตึงเครียดและช่วยให้ผ่อนคลาย ทำให้หลับลึก และช่วยให้โกรทฮอร์โมนหลั่งตอนนอนหลับสนิท ช่วยให้ตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นและไม่งัวเงีย

ช่วยป้องกันโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ทั้งชายและหญิง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง และป้องกันโรคมะเร็งเนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระในน้ำมันรำข้าวชนิดนี้ในปริมาณมาก

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวที่สกัดได้จากกรรมวิธีพิเศษนี้ จะไม่มีการใส่วัตถุกันเสีย และไม่มีการเติมสารเคมีหรือแต่งสี สีของน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว สังข์หยดเป็นสีตามธรรมชาติ มีกลิ่นเฉพาะตัวและเมื่อทิ้งไว้ระยะหนึ่งจะพบว่ามีตะกอนของสารสเตอรอลจากพืช (Phytosterol) นอนก้นอยู่เล็กน้อย ซึ่งแสดงว่าเป็นน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวบริสุทธิ์ เป็นของแท้มีคุณภาพ

Phytosterol ไฟโตสเตอรอล คืออะไร

ไฟโตสเตอรอล เป็นสารธรรมชาติที่พบเฉพาะในพืชเท่านั้น มีลักษณะโครงสร้างทางเคมีใกล้เคียงกันมากกับโคเลสเตอรอล (Cholesterol) ซึ่งพบเฉพาะในสัตว์และมนุษย์ (Vertebrate Animal) เท่านั้น ซึ่งประเด็นนี้ ทำให้ไฟโตสเตอรอลมีประโยชน์ต่อการลดการดูดซึมโคเลสเตอรอลในร่างกายของเรา

ไฟโตสเตอรอล ช่วยลดการดูดซึมโคเลสเตอรอลได้อย่างไร

โคเลสเตอรอลจากอาหารจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายที่ลำไส้เล็ก โดยโคเลสเตอรอลจะรวมตัวกับเกลือของกรดน้ำดี (Bile Salt) ในรูปของไมเซลล์ (Micelle) จากนั้นโคเลสเตอรอลจะถูกเปลี่ยนไปเป็นโคเลสเตอรอลเอสเตอร์ เพื่อเข้าสู่กลไกการนำส่งไปใช้งานต่อไป ในขณะที่ไฟโตสเตอรอล เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะแย่งฟื้นที่ของโคเลสเตอรอลในไมเซลล์ ทำให้ปริมาณโคเลสเตอรอลที่ถูกดูดซึมในร่างกายน้อยลง

ถึงแม้ว่าไฟโตสเตอรอลและโคเลสเตอรอลจะมีสูตรโครงสร้างทางเคมีคล้ายคลึงกันมาก แต่ในร่างกายมนุษย์ ไฟโตสเตอรอลจะถูกดูดซึมได้น้อยกว่าโคเลสเตอรอลมาก ดังนั้นจึงไม่พบว่าไฟโตสเตอรอลในร่างกายจะทำให้เกิดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดแดงแข็ง (Atheroscerosis) เหมือนกับโคเลสเตอรอลถ้ามีอยู่ในกระแสเลือดมากเกินไป

มีการวิจัยถึงประโยชน์ของไฟโตสเตอรอลอย่างแพร่หลายเกี่ยวกับการนำไปใช้บำบัดผู้ป่วยที่มีภาวะโคเลสเตอรอลสูง (Hypercholesterolemic) ทำให้ระดับโคเลสเตอรอลรวม (Total Cholesterol) และโคเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL-C) ในร่างกายลดลงโดยไม่มีผลกระทบต่อระดับโคเลสเตอรอลที่ดี (HDL-C) ช่วยยับยั้งการเติบโตของเนื้องอก และเซลล์มะเร็ง ช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งต่อมลูกหมาก และลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจได้

โดยสรุปแล้ว น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสังข์หยด เป็นแหล่งรวมสารอาหารที่สำคัญ และเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่ไม่ได้เป็นยาเพื่อรักษาอาการของโรค เพียงแต่สารอาหารที่อยู่ในน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว ทำให้ระบบต่างๆภายในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ร่างกายจึงสร้างภูมิต้านทานต่อโรคต่างๆหรือบำบัดอาการของโรคเรื้อรังต่างๆด้วยตัวเอง



วันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสังข์หยดแคปซูล (สกัดเย็น)

                                       น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวสังข์หยด(แคปซูล) 

น้ำมันรำข้าว สังข์หยดและจมูกข้าวสังข์หยด 100% มีสารแกมมา-ออริซานอลสูง เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของน้ำมัน ช่วยเพิ่มระดับ HDL ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมีผลทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายทำงานปกติและไปช่วยขจัดคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี LDL รวมทั้งขจัดไตรกลีเซอไรด์ในร่างกาย

                                                               สรรพคุณ

  • ป้องกันการเกิดโรคหัวใจและกลุ่มโรคหลอดเลือดตีบตัน เช่น โรคหัวใจขาดเลือด โรคหัวใจวาย โรคอัมพาต และโรคอัมพฤกษ์
  • ป้องกันโรคเบาหวาน เพราะสารโครเมียมนั้นเมื่อร่างกายดูดซึมเข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิตจะทำหน้าที่ในการจับฮอร์โมนอินซูลิน ทำให้ลดน้ำตาลในเลือด ลดความดันโลหิต
  • ป้องกันโรคสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์ สารแกมมา-ออริซานอล มีคุณสมบัติรักษาสมดุลของระบบประสาท ปรับปรุงสมอง เสริมความจำ
  • ช่วยทำให้หลับลึก ในน้ำมันรำข้าวสังข์หยดมีสารกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเมลาโทนิน ช่วยบำรุงร่างกาย ทำให้ร่างกายเกิดการผ่อนคลาย ลดความตึงเครียด ทำให้หลับลึก ตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น แจ่มใส ไม่งัวเงีย *** อาจารย์อาทิส อินทรกำแหง กูรูด้านชีวจิต แนะนำว่า เราควรนอนให้เป็นเวลาและหลับลึก เพื่อสุขภาพเป็นเลิศ เพราะในเวลานั้นนอกจากการหลั่งโกร๊ธ ฮอร์โมน เมื่อหลับลึกแล้ว การปรับนาฬิกาชีวิต (Biological Clock) ให้นอนเป็นเวลา ยังมีส่วนช่วยให้ระะภูมิคุ้มกันทำงานเป็นเลิศอีกด้วย ***
  • ป้องกันโรคมะเร็ง เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก ซึ่งได้จากสารแกมมา-ออริซานอลที่สูง ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ อันเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง
  • ช่วยชะลอความชรา บำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใส บำรุงเส้นผมให้ดกดำ เงางามและมีสุขภาพที่ดี

    ลักษณะของน้ำมันรำข้าวและจมูกสังข์หยดมีสีเข้มเพราะมีสารแกมมา-โอริซานอล และสารต้านอนุมูลอิสระ (anti-oxidant) ในปริมาณที่สูงตามธรรมชาติ
          น้ำมันรำข้าว สังข์หยดและจมูกข้าวสังข์หยด อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารที่ช่วยบำรุงร่างกาย มีวิตามินและเกลือแร่มากมาย เช่น โครเมียม แมกนีเซียม แมงกานีส สังกะสี ซิลีเนียม เหล็ก
โพแตสเซียม เป็นต้น ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของระบบหัวใจ ระบบประสาท ระบบสมอง ระบบอวัยวะสืบพันธุ์ รวมทั้งระบบอื่นๆ
  • ซิลีเนียม ช่วยลดการอักเสบของผิวหนังที่ไหม้จากการโดนแดดแรงๆ และช่วยควบคุมความเสียหายของเซลล์ ช่วยเสริมสร้างอีลาสตินและโปรตีนที่กระตุ้นให้เส้นใยใต้ผิวหนังยืดหยุ่นขึ้น ทำให้ผิวดูอ่อนกว่าวัยและทำให้ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัส
  • สังกะสี (ซิงค์) ลดการผลิตน้ำมันและลดการก่อตัวของสิว ถ้าขาดธาตุสังกะสีจะมีอาการเกี่ยวกับตับแข็ง เบาหวาน เป็นแผล โดยเฉพาะแผลภายในจะหายยาก มีปัญหาเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก และจะมีอาการติดเชื้อโรคและการอักเสบได้ง่าย
  • แมกนีเซียม ถ้าขาดจะทำให้เกิดโรคไต เบาหวาน ท้องเดิน และทำให้การดูดซึมอาหารไม่ดี
  • โพแตสเซียม ถ้าขาดจะทำให้อาเจียนและทอ้งเดิน ถ้าขับน้ำออกจากตัวมากเกินไปจะขาดโพแตสเซียม
  • แมงกานีส ช่วยทำให้ระบบสืบพันธุ์ทำงานตามปกติ ช่วยขับฮอร์โมน หากขาดธาตุแมงกานีส อาจส่งผลให้ประจำเดือนมามากผิดปกติได้ จึงควรทานอาหารที่มีแมงกานีสมากๆเพื่อปรับประจำเดือนที่มามากผิดปกติให้กลับสู่สมดุล
  • เหล็ก ช่วยบำรุงเลือดไม่ให้เกิดโรคโลหิตจาง เลือดมีความเข้มข้นตามปกติ ถ้าได้รับธาตุเหล็กเพียงจะทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล ร่างกายแข็งแรง